กิจกรรมท้ายบทที่ 5
หัวข้อที่ 1 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์คืออะไร
อธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ หมายถึง การกระทำผิดทางอาญาในระบบคอมพิวเตอร์
หรือการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อกระทำผิดทางอาญา เช่น ทำลาย เปลี่ยนแปลง
หรือขโมยข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้น ระบบคอมพิวเตอร์ในที่นี้
หมายรวมถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมกับระบบดังกล่าวด้วย
อาทิเช่น
การนำเอาข้อมูลของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
หรือขโมยเอา
Passwords ของคนอื่นมาเพื่อใช้กระทำกิจกรรมอะไรต่างๆที่ไม่ดี
หัวข้อที่ 2 อธิบายความหมาย
Hacker
คือ
ผู้เชี่ยวชาญดานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆเป็นอย่างมาก สามารถถอดหรือเจาะเอารหัสระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคนอื่นได้
มีวัตถุประสงค์ในการทดสอบขีดความสามารถของตัวเอง หรือทำในหน้าที่การงานของตัวเอง
Cracker หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญดานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆเป็นอย่างมาก
สามารถถอดหรือเจาะเอารหัสระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคนอื่นได้ ผู้บุกรุกระบบคอมพิวเตอร์คนอื่นโดยผิดกฎหมาย
เพื่อทำลายหรือเอาข้อมูลไปใช้ส่วนตัว
Spam คือ
การส่งข้อความถึงผู้ที่ไม่ต้องการรับ ก่อให้เกิดความรำคาญ ละเมิดสิทธิ
ความเป็นส่วนตัว และผิดกฎหมาย
Trojan คือ โปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็น
โปรแกรมธรรมดาทั่วๆไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการรียกขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อ
ถูกเรียกขึ้นมาแล้วก็จะเริ่มทำลายที่โปรแกรมมาทันที มักถูกแนบมากับอีการ์ด อีเมล์
หรือ การดาวน์โหลดโปรแกรมจากอินเตอร์เน็ต
Spyware คือ โปรแกรมที่แอบเข้ามาติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่ผู้ใช้อาจไม่ได้เจตนา
เพื่อสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้งาน เช่น หน้า Pop Up โฆษณา
หัวข้อที่ 3 ยกตัวอย่างกฎหมาย IT หรือ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ อธิบายถึงการกระทำผิดและบทลงโทษ 5 ตัวอย่าง
1:
พฤติกรรม: ใช้
user name/password ของผู้อื่น Log in เข้าสู่ระบบ
ฐานความผิด: มาตรา 5 ปรับไม่เกิน 10,000.- จำคุกไม่เกิน 6
เดือน
ข้อแนะนำ: ไม่ใช้ user/password ของผู้อื่น
และห้ามไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ password ของตน
2.
พฤติกรรม: Forward
email ที่มีข้อความ เนื้อหา หรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสม
เป็นเท็จ กระทบความมั่นคง หรือลามกก่อนาจาร
ฐานความผิด: มาตรา 14 ปรับไม่เกิน 100,000.- จำคุกไม่เกิน
5 ปี
ข้อแนะนำ: ไม่ forward email ที่ไม่เหมาะสม
3.
พฤติกรรม:
โพสข้อความตามกระทู้ต่างๆ ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม เป็นเท็จ กระทบความมั่นคง
หรือลามกอนาจาร
ฐานความผิด: มาตรา 14 ปรับไม่เกิน 100,000.- จำคุกไม่เกิน 5
ปี
ข้อแนะนำ: ใช้วิจารณญาณในการแสดงความคิดเห็น
และคำนึงถึงผลที่จะตามมา
4.
พฤติกรรม:
เผยแพร่ภาพตัดต่อให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสีย หรืออับอาย
ฐานความผิด: มาตรา 16 ปรับไม่เกิน 60,000.-
จำคุกไม่เกิน 3 ปี
5. พฤติกรรม : จากกรณีที่ตำรวจหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับ
นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์
วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์
อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี
เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย
ได้ทำกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต
จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง
ตลาดหุ้นไทย
ล่าสุดตำรวจก็ได้เข้าจับกุม พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยผู้ต้องหายอมรับว่า เคยโพสข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง
ขณะนี้ทางตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหาย ปี 2550 มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุดตำรวจก็ได้เข้าจับกุม พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยผู้ต้องหายอมรับว่า เคยโพสข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง
ขณะนี้ทางตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหาย ปี 2550 มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น