วันหยุดสุดขีดของฉัน

วันหยุดสุดขีดของฉัน

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556



กิจกรรมท้ายบทที่ 4
หัวข้อที่ 1 ข้อดีและข้อเสียสื่อกลางประเภทมีสายแต่ละประเภท
1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) เป็นสายทองแดงที่มีฉนวนหุ้ม 2 เส้น นำมาพันกันเป็นเกลียว ใช้กันแพร่หลายในระบบโทรศัพท์ มีความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps และส่งได้ในระยะทาง 1 mile สายคู่บิดเกลียวมี 2 ประเภท คือ
1. สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีชิลด์ (Unshielded Twisted Pair; UTP)

ที่มารูป http://tulip.bu.ac.th/

2. สายคู่บิดเกลียวแบบมีชิลด์ (Shielded Twisted Pair; STP)

ที่มารูป http://tulip.bu.ac.th/

ข้อดีข้อเสียของสายคู่บิดเกลียว
ข้อดี
1.     มีราคาถูก
2.     ใช้งานง่ายมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
3.     ติดตั้งง่ายและมีน้ำหนักเบา
ข้อเสีย
1.     ถูกรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
2.     ระยะทางจำกัด


3.     สายโคแอกเชียซ์ล(Coaxial Cable) ประกอบด้วยลวดทองแดงอยู่ตรงกลางหุ้มด้วย ฉนวนพลาสติก 1 ชั้น แล้วจึงหุ้มด้วยทองแดงที่ถักเป็นแผ่นแล้วหุ้มภายนอกอีกชิ้นหนึ่งด้วยฉนวน ใช้ในระบบโทรทัศน์ และวิทยุ ความเร็วในการส่งข้อมูล 350 mbps ส่งได้ในระยะทาง 2-3 ไมล์

ที่มารูป http://tulip.bu.ac.th/
ข้อดีข้อเสียของสายโคแอกเชียซ์ล
ข้อดี
1.     มีประสิทธิภาพ และความต้านทานต่อการรบกวนสูง
2.     สามารถส่งข้อมูลได้ไกลกว่าสายส่งข้อมูลแบบ twisted pair
3.     สามารถส่งได้ทั้งเสียง สัญญาณวิดีโอ และข้อมูล
ข้อเสีย
1.     ราคาแพงกว่าสายส่งข้อมูลแบบ twisted pair
2.     ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมีราคาสูงกว่าสายส่งข้อมูลแบบ twisted pair
3.     จำกัดจำนวนของการเชื่อมต่อ
4.     ระยะทางจำกัด

4.     สายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) ประกอบด้วยเส้นใยที่ทำมาจากใยแก้ว 2 ชนิด ชนิดหนึ่งจะอยู่ที่แกนกลาง ส่วนอีกชนิดหนึ่งอยู่ที่ด้านนอก ซึ่งใยแก้วทั้งสองนี้จะมีดัชนี การสะท้อนแสงต่างกัน ทำให้แสงซึ่งถูกส่งออกมาจากปลายด้านหนึ่งสามารถส่งผ่านไปยัง อีกด้านหนึ่ง โดยที่ไม่ผ่านออกไปยังผิวด้านนอกของเส้นใยได้ ใช้สำหรับส่งข้อมูล ที่ต้องการความเร็วสูง มีข้อมูลที่ต้องการส่งจำนวนมาก และในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณไฟฟ้า รบกวนมาก ความเร็วในการส่งข้อมูล 1 Gbps ระยะทางในการส่งข้อมูล 20-30 ไมล์

                           
ที่มารูป http://tulip.bu.ac.th/

ข้อดีข้อเสียของสายใยแก้นำแสง
ข้อดี
1.     ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
2.     ไม่มีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น โรงพยาบาล สถานีโทรทัศน์
3.     ส่งข้อมูลได้ในปริมาณมาก
ข้อเสีย
1.     มีราคาแพงกว่าสายส่งข้อมูล 2 แบบแรก
2.     ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้งมากกว่าสายส่งข้อมูลแบบอื่น ๆ
3.     มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่า 2 แบบแรก

หัวข้อที่ 3 หากนำระบบเครือข่ายมาใช้ในองค์กรนักศึกษาจะเลือกรูปแบบของระบบเครือข่าย(LAN Topology) แบบใดเพราะอะไร

       1. แบบดาว (Star Network)   เป็นวิธีการที่นิยมใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเข้ากับคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Host Computer) ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องศูนย์กลาง และต่อสายไปยังคอมพิวเตอร์หรือเทอร์มินัลตามจุดต่างๆ แต่ละจุดเปรียบได้กับแต่ละแฉกของดาวนั่นเอง ในการต่อแบบนี้คอมพิวเตอร์แต่ละตัวจะถูกต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางโดยตรง จึงไม่มีปัญหาการแย่ง การใช้สายสื่อสาร จึงทำให้มีการตอบสนองที่รวดเร็วการส่งข้อมูลแต่ละสถานี (เครื่องคอมพิวเตอร์ย่อยๆ) ก็จะส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางก่อนแล้วตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางนี้จะเป็นผู้ส่งไปยังสถานีอื่นๆ การควบคุมการรับส่งภายในระบบทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางดังนั้นถ้าเครื่องศูนย์กลางมีปัญหาขัดข้องก็จะทำให้ระบบทั้งระบบต้องหยุดชะงักทันที




http://www.garethjmsaunders.co.uk/pc/images/network/star-topology.gif

ข้อดี
      1. เป็นระบบที่ง่ายต่อการติดตั้ง
      2. เนื่องจากการรับ ส่งข้อมูลขึ้นอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางทั้งหมดจึงทำให้การรับ ส่งข้อมูลทำได้ง่าย
      3. หากอุปกรณ์ชิ้นใดเสียหายก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ เพราะมีการใช้อุปกรณ์ที่แยกออกจากกัน
      4. การตอบสนองที่รวดเร็วเพราะไม่ต้องแย่งกันใช้สายสื่อสาร
      5. หากสถานีใดเกิดความเสียหายก็สามารถที่จะตรวจสอบได้ง่าย


ข้อเสีย
      1. เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษามาก
      2. หากคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางขัดข้อง ก็จะทำให้ระบบใช้งานไม่ได้ทันที
      3. ขยายระบบได้ยากเพราะต้องทำจากศูนย์กลางออกมา
      4. เครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางมีราคาแพง




หัวข้อที่ 4 ข้อดีของอินเตอร์เน็ตกับการศักษาไทย


1.  เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การค้นหาข่าวสาร ข้อมูลต่างๆเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น  ปัจจุบัน มี web site ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย  แต่ละ web site ก็ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องต่างๆ  รูปแบบระบบห้องสมุดก็มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนเป็น digital library ที่มี หนังสือในเรื่องต่างๆเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ให้อ่านและค้นคว้าได้ online  

2.   การใช้ email ช่วยให้การติดต่อข่าวสาร ระหว่างนักวิชาการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว  ไม่ล่าช้าเหมือนแต่ก่อน  ช่วยให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง นักวิชาการในสาขาเดียวกันทั่วโลกเป็นไปได้  

3.   การเรียนแบบ online หรือE-libaray, E-learning  ยังช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนได้ตามขีด ความสามารถของตนเอง  ใครมีความสามารถมากก็เรียนได้เร็วกว่า  นักเรียนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในห้อง ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้มากขึ้นผ่านการใช้ email หรือ discussion group 







วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

กิจกรรมท้ายบทที่ 3 



ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูลด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิคส์ แบ่งได้ 3 วิธี ดังนี้
1. ขั้นเตรียมข้อมูล
                เป็นการเตรียมข้อมูลเพื่อให้สะดวกต่อการประมวลผล ซึ่งมี 4 วิธี
                1.1 การลงรหัส
                1.2 การตรวจสอบ
                1.3 การจำแนก
                1.4 การบันทึกข้อมูลลงสื่อ
/2. ขั้นตอนการประมวลผล
                คือ เป็นการนำเอาโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาใช้เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้เตรียมไว้และข้อมูลยังคงเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตสารสนเทศต่างๆ เช่น
2.1 การคำนวณ
2.2 การเรียงลำดับข้อมูล
2.3 การสรุป
2.4 การเปรียบเทียบ
3. ขั้นตอนการแสดงผลลัพธ์
เป็นขั้นตอนการเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ อาจอยู่ในรูปแบบ เอกสาร รายงาน การนำเสนอบนจอภาพ โดยการใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

โครงสร้างข้อมูล
บิต(Bit) หน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูล ,เลขฐาน 2 คือ 0,1
ไบต์(Byte) การนำตัวอักษรบิตมารวมกันเปป็นอักขระ เช่น ก ฮ โดย 8 Bit = 1 Byte
ฟิลด์(Field) การนำไบต์หลายๆไบต์รวมกัน เรียกว่าเขตข้อมูล
เรคอร์ด (Record) การนำฟิลด์หลายๆฟิลด์มารวมกันเรียกว่า ระเบียน
ไฟล์ (File) การเรคอร์ดหลายๆ เรคอร์ดมารวมกัน เรียกว่า แฟ้มข้อมูล
ฐานข้อมูล (Database) การนำไฟล์หลายๆไฟล์มารวมกัน เรียกว่าฐานข้อมูล


ระบบฐานข้อมูลของหน่วยงาน โรงพยาบาล
                โรงพยาบาลนำระบบการจัดการฐานข้อมูลมาใช้จัดเก็บข้อมูลเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำงาน  ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล ยกตัวอย่าง ฐานข้อมูลหน้างานตั้งแต่ผู้ป่วยก้าวเข้ามาในโรงพยาบาล โดยใช้ระบบสืบคืนประวัติผู้ป่วยที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลรวมไปถึงการบันทึกข้อมูลใหม่เพิ่มลงในฐานข้อมูลเวชระเบียน  เมื่อพบข้อมูลผู้ป่วยเจ้าหน้าที่จะนำส่งผู้ป่วยไปยังห้องตรวจเพื่อพบแพทย์ แพทย์จะทำการบันทึกข้อมูลประวัติการรักษาและประวัติการับยาลงในแฟ้มข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูลจะถูกส่งไปยังห้องยาเพื่อให้ผู้ป่วยไปรับยาและกลับบ้าน  สิ้นสุดกระบวนการรับการรักษาแต่ข้อมูลของผู้ป่วยจะถูกบันทึกไว้ในแฟ้มข้อมูลของแต่ละคนและถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลของโรงพยาบาล


ความแตกต่างระหว่างการประมวลผลข้อมูลแบบ Batch และแบบ Real Time
                การประมวลผลแบบ Batch เป็นการประมวลผลแบบกลุ่ม  ซึ่งรวบรวมข้อมูล และแบ่งแยกข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆแล้วจึงส่งเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้ทำการประมวลผลครั้งเดียวและจะไม่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนการประมวลผลแบบ Real Time  นั้นเป็นการประมวลผลแบบเวลาจริง ซึ่งการประมวลผลที่เมื่อทำการส่งข้อมูลเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วจะได้ผลลัพธ์ออกมาทันทีโดยแสดงผลข้อมูลทันทีทันใด โดยผ่านทาง Output เช่น การใช้บริการบัตรเครดิตตามห้างร้านต่างๆ


วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556


หัวข้อที่ 1อธิบายความหมาย พร้อมยกตัวอย่างของ


ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็น ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ หมายถึง ส่วนที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประกอบขึ้นมาใช้งานได้ ซึ่งสามารถแบ่งส่วนประกอบได้ 3 ส่วนที่สาคัญ คือ
<!--[if !supportLists]-->1. อุปกรณ์รับข้อมูล เช่น กล้อง, คีย์บอร์ด, เมาส์, เครื่องแสกน
2. อุปกรณ์ของหน่วยประมวลผล เช่น CPU (Central Processing Unit) ,ROM(Read Only Memory) RAM (Random Access Memory) ,ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
3. อุปกรณ์แสดงผล เช่น ลำโพง, จอภาพ, เครื่องปริ้น

       ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรม (Program) หรือชุดคำสั่งที่ควบคุมให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ประกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่สามารถทำงานได้ในทันที ต้องมีซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงานตามต้องการได้ โดยโปรแกรมหรือชุดคำสั่งนั้นจะเขียนจากภาษาต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหนึ่ง และมีโปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนักเขียนโปรแกรมเป็นผู้ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเขียนซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ขึ้นมาซอฟต์แวร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ       1) ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่จัดการและควบคุม ทรัพยากรต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ และอำนวยความสะดวกด้านเครื่องมือสำหรับการทำงานพื้นฐานต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ใช้เริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานจะเป็นไปตามชุดคำสั่งที่เขียนขึ้น ตลอดจนควบคุมการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 
       2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างหรือพัฒนาขึ้น เพื่อใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น งานด้านการจัดทำเอกสาร การทำบัญชี การจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนงานด้านอื่น ๆ ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ 
บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสำคัญมาก เพราะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ นั้นจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดำเนินการต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก เราจึงถือว่าบุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งสามารถสรุปเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (Operator)
- บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบ (System)
- ผู้จัดการศูนย์ประมวลผลคอมพิวเตอร์ (Electronic Data Processing Manager)
- ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer user)
 

ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงหรือสาระต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติ อาจเป็นตัวเลขหรือข้อความที่เกิดขึ้นจาก การ ดาเนินงาน หรือที่ได้จากหน่วยงานอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ ในการตัดสินใจได้ทันที จะนาไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว
การแบ่งข้อมูลตามลักษณะของข้อมูล-มอง, ฟัง , สัมผัส
การแบ่งข้อมูลตามแหล่งข้อมูลที่ได้รับ-ปฐมภูมิ
การสังเกต,การสัมภาษณ์,การจดบันทึก,การสารวจ-ทุติยภูมิ
ผลจากการนาข้อมูลปฐมภูมิมาประมวลผล
การแบ่งข้อมูลตามการจัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์
-ข้อมูลตัวอักษร (Text Data)
-ข้อมูลภาพ (Image Data)
-ข้อมูลเสียง (Sound Data)
-ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว (Video Data)

การแบ่งข้อมูลตามระบบคอมพิวเตอร์
-ข้อมูลเชิงจำนวน (Numeric Data) มีลักษณะเป็นตัวเลขที่สามารถนามาคานวณด้วยคอมพิวเตอร์ได้
-ข้อมูลอักขระ (Character Data) มีลักษณะเป็นตัวอักษร ตัวหนังสือ และสัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถ นาเสนอข้อมูลและเรียงลาดับได้แต่ไม่สามารถนามาคานวณได้ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บ้าน และชื่อของนักเรียน
-ข้อมูลกราฟิก (Graphical Data) เป็นข้อมูลที่เกิดจากจุดพิกัดทางคอมพิวเตอร์ ทาให้เกิดรูปภาพหรือแผนที่ เช่น เครื่องหมายการค้า แบบก่อสร้างอาคาร และกราฟ           
-ข้อมูลภาพลักษณ์ (Image Data) เป็นข้อมูลแสดงความเข้มและสีของรูปภาพที่เกิดจากการสแกนของสแกนเนอร์เป็นหลัก ซึ่งสามารถนาเสนอข้อมูล ย่อหรือขยาย และตัดต่อได้ แต่ไม่สามารถนามาคานวณหรือ ดาเนินการอย่างอื่นได้

สารสนเทศสารสนเทศ (Information) คือสิ่งที่ได้จากการประมวลผลของข้อมูล เพื่อให้สามารถนามาใช้ประโยชน์ในด้านการวางแผน การพัฒนา การควบคุม และการตัดสินใจ สารสนเทศที่ดีจะต้องมีความถูกต้อง สมบูรณ์ น่าเชื่อถือ มีความทันสมัย โดยมีรูปแบบการนาเสนอที่สวยงาม ชัดเจน น่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย เช่น การแสดงผลเป็นแผนภูมิ กราฟ ตาราง


หัวข้อที่ 2 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ได้แก่  Hardware ,Software และ Peopleware  ที่นำมามาใช้ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 

 ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งจะดำเนินกิจการได้ต้องอาศัยบุคลากรณ์ หรือพนักงาน และ อุปกรณ์  Hardware ,Software  ต่างๆเช่น 


          1. เครื่องบันทึกเงินสด ( Electronic Cash Register หรือ ECR) 
          2. เครื่องพีซี




          3. บาร์โค้ด-Barcode 
          4.  เครื่องอ่านบาร์โค้ด (barcode reader)
          5.  เคาน์เตอร์เซอร์วิส  
          6. บานประตูเลื่อนอัตโนมัติ เป็นประตูที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์
          7. กล้องวงจรปิด   ระบบกล้องวงจรปิด คือ CCTV ( Closed Circuit Television System )
          8. พนักงาน

หัวข้อที่ 3 แสดงข้อมูล จานวน 1 ชุด พร้อมทั้งแสดงในรูปแบบของระบบสารสนเทศ



ตัวอย่างข้อมูลที่เป็นเพียงการจดบันทึก



 
ตัวอย่างข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบตาราง